วิธีปลูกแคคตัส (Cactus)

แคคตัส

แคคตัส (Cactus) เป็นไม้ประดับที่สวยงามทั้งด้านต้นและดอกชนิดหนึ่ง และสามารถขึ้นได้ดีในที่มีดินฟ้าอากาศที่แห้งแล้ง ดินทรายก็สามารถขึ้นไปดี แคคตัส เป็นพืชในตระกูล Cactaceae ซึ่งมีอยู่ 140 สกุล ประมาณ 2000 ชนิด แคคตัส เป็นพืชพวก succulent ชนิดหนึ่ง ซึ่งความหมายของพืชพวก succulent ได้แก่พืชที่อวบน้ำ มีใบหนา ลำต้นและส่วนต่าง ๆ มักมีแต่น้ำมาก เกือบไม่มีเนื้อไม้เลย พืชพวก succulent มักมีถิ่นกำเนิดในที่แห้งแล้งในระยะนาน ๆ และสามารถเก็บน้ำไว้ในลำต้นโดยไม่ค่อยสูญเสีย เพราะพืชพวกนี้มีผิวหนา ดังนั้น พันธุ์ไม้พวก succulent นี้ จึงมีพืชหลายตระกูล (Family) ด้วยกันแต่ไม่ใช่แคคตัส

พืชบางชนิด บางสกุล มีลักษณะเหมือนแคคตัสมาก เช่น พวกโป้ยเซียน พญาไร้ใบ ต้นสลัดได ซึ่งอยู่ใน Family Euphorbiaceae ซึ่งบางครั้งคนไทยเข้าใจกันว่าพวกแคคตัสคือพวกตะบองเพชร และสลัดไดเป็นอีกพวกหนึ่ง โดยถือว่าถ้าเป็นสลัดไดต้องมียางสีขาวเหมือนน้ำนม ถ้าเป็นตะบองเพชรแล้วไม่มียางเหมือนสลัดได ทั้งสองพวกมีหนามเหมือนกัน

ถิ่นกำเนิดของแคคตัส

มีถิ่นกำเนิดในที่แห้งแล้ง ตามทะเลทราย ตามภูเขาที่ดินเลว ๆ แห้งแล้งในเขตร้อน และอบอุ่นทั่วไป เช่น แอฟริกา อเมริกาตอนใต้ เม็กซิโก ชิลี เปรู อาเจนตินา และย่านเอเชียทั่วไป

ลักษณะของแคคตัส

เป็นพืชพวกที่อายุยืนหลายปี ลำต้นมีรูปร่างแตกต่างกันมากมายหลายชนิด ซึ่งเหมาะที่จะปลูกเป็นไม้ประดับ เช่น บางชนิดกลม บางชนิดแบน บางชนิดเป็นเหลี่ยม ส่วนมากพวกแคคตัส มักไม่ค่อยมีใบเหมือนใบไม้ธรรมดา แต่มีหนามหรือปุ่ม ที่แปรสภาพจากใบเพื่อลดพื้นที่ในการระเหยน้ำออกจากต้นให้น้อยลง หนามของแคคตัส มีลักษณะแตกต่างออกไปหลายชนิด บางชนิดมีลักษณะยาวตรง บางชนิดแหลมยาวโค้ง บางชนิดเป็นฝอยเล็ก ๆ จนกลายเป็นเหมือนเส้นไหม ถ้ามีใบแล้ว ส่วนมากใบจะมีลักษณะแบนและหนาอวบน้ำ

ดอกแคคตัส

บางชนิดมีดอกใหญ่สวยงาม มีกลิ่นหอม บางชนิดมีดอกบานกลางวันบางชนิดมีดอกบานกลางคืน ดอกส่วนมากมีหนามหรือมีขนหรือมีปุ่ม เป็นตอนที่มีกลีบดอกหรือก้านดอกด้วย ดอกส่วนมากเป็นดอมสมบูรณ์เพศ มีทั้งดอกเดี่ยวและออกเป็นพวง รังไข่อยู่ใต้ดอก มีรังไข่เดียว ผลมักมีหนาม และมีรูปร่างต่าง ๆ กันส่วนมาก ผลสีแดง ม่วง ชมพู

แคคตัส จำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ

  1. ประเภทที่ขึ้นแถบอากาศหนาว
  2. ประเภทที่ขึ้นแถบเขตอากาศร้อน

แคคตัส แบ่งออกเป็น 3 Tribe คือ

1. Pereskieae เป็นแคคตัสที่มีถิ่นกำเนิดแถบ Tropic มีใบแบนกว้าง ดอกมีก้านยาว เป็นพวกที่ไม่มี barb hair หรือ glochids บางชนิดเป็นไม้ใหญ่ บางชนิดเป็นไม้พุ่ม บางชนิดเป็นไม้เลื้อย ขึ้นกับความเป็นอยู่ของแต่ละชนิด

2. Opuntia เป็นแคคตัสใบเสมา มีถิ่นกำเนิดที่ Subtropical ลำต้นมีการแตกแขนงคล้ายใบเสมาต่อเนื่องกัน มีหนามชนิดต่าง ๆ

3. Cereaneae หรือ Cereae แบ่งเป็น 8 Subtribe

  1. Cereanae หรือ Colum หรือ torch cacti มีต้นใหญ่คล้ายพวก Tree มีแขนงลำต้นเป็นเหลี่ยม หนามลักษณะแตกต่างกัน บางชนิดหนามแหลม บางชนิดเป็นขน
  2. Hylocereanea ต้นเป็นเถา มีรากแบบ epiphyte คือ เกาะตามต้นไม้ หิน ดอกมักบานกลางคืน เรียก Night blooming cacti บางชนิดมีบานกลางวัน ดอกโต
  3. Echinocereanae หรือ Hedgehog ลำต้นมักเตี้ย มีลำต้นเดี่ยว แตกแขนง มีเหลี่ยมมาก ดอกรูปคล้ายระฆังเกิดข้างต้น ดอกมีสีต่าง ๆ กัน เช่น แดง ชมพู ม่วง เหลือง ขาว บางชนิดต้องการอากาศเย็นจึงออกดอก
  4. Echinocactanae ลำต้นสามเหลี่ยม บิด ๆ ต้นเตี้ยขนาดเล็ก ปลายต้นรูปร่างคล้ายหมวก มีดอกสวย บางชนิดไม่มีหนาม เช่น Astrophytum myriostigma
  5. Cactanae ปลายต้นมีรูปร่างคล้ายหมวกแขก รูปร่างกลม มีดอกและผลง่าย เรียก Melon Cactus หรือ Turk’s Cap
  6. Caryphonthanae เป็น Cactus ที่มีต้นทรงกลม หรือทรงกระบอก ลำต้นเล็ก แตกแขนงเป็นกอใหญ่ มีตุ่มขนาดเล็กเรียงกันตามลำต้นแทนเหลี่ยม
  7. Epiphyllanae เป็นแคคตัสที่อยู่แถบร้อน ส่วนมากเป็นพวก epiphyte มีแขนงคล้ายใบ ใบยาวแบน ๆ มีดอกสวยเด่น เช่น พวกมังกรคาบแก้ว บางชนิดมีรูปร่างใบคล้ายใบเสมา แต่ขนาดเล็กกว่า
  8. Phipsalidanae หรือ chain cactus เป็นแคคตัสที่แตกแขนงง่าย ลำต้นบอบบาง เป็น epiphyte ลำต้นบางชนิดมีรูปร่างแบน บางชนิดมีรูปร่างทรงกระบอก มีดอกเล็ก มักปลูกในกระถางแขวน

เครื่องปลูก การปลูก การดูแลรักษา การขยายพันธุ์

แคคตัส ต้องการดินที่มีการระบายน้ำดี ไม่ต้องการดินที่มีธาตุอาหารสมบูรณ์เหมือนกับพืชอื่น ๆ เครื่องปลูกที่ใช้มักผสมด้วย ดินร่วน ทราย ใบไม้ผุ ถ่าน อิฐมอญ กรวด อัตราต่าง ๆ กันแล้วแต่ผู้ปลูก อัตราส่วนผสมของดินที่ใช้ปลูกแคคตัสทั่ว ๆ ไป อาจใช้ดินร่วนทราย 4 ส่วน ผสมด้วยทรายหยาบ 2 ส่วน ใบไม้ผุ 1 ส่วน และถ่าน 2 ส่วน อาจเติมอิฐหักก้อนเล็ก ๆ 1 ส่วน รวมเป็น 10 ส่วน

การปลูกแคคตัส

ควรเลือกกระถางให้ได้ขนาดพอเหมาะกับต้นแคคตัส วางเศษกระถางแตกปิดรูกันก้นกระถาง อย่าปิดให้สนิท เพราะต้องการให้ระบายน้ำดี ใส่เศษอิฐมอญหักหรือกรวดขนาดใม่ใหญ่ไม่เล็กนัก ลงไปในกระถาง 1 ใน 4 ของความลึกของกระถาง แล้วจึงใส่ดินปลูกที่ผสมแล้วลงไป นำต้นแคคตัสวางลงในดินปลูก ค่อย ๆ กลบดินปลูกโคนต้นแคคตัส เหลือขอบกระถางให้สูง 1 ใน 4 ขอบปากขอบกระถาง แล้วใช้อิฐหักขนาดเล็ก ๆ โรยปิดหน้าดิน ปลูกให้ต่ำกว่าขอบกระถางเล็กน้อย

การปลูกแคคตัส ควรวางต้นให้ได้ลักษณะสวยงาม ควรปลูกให้อยู่ตรงกลางกระถางจริง ๆ เพื่อให้การเจริญเติบโตได้สัดส่วน

การให้น้ำแคคตัสนั้น ข้อพิจารณาอยู่ที่เครื่องปลูก ต้องให้เครื่องปลูกแห้งและต้องการน้ำจริง ๆ จึงให้น้ำ ไม่ควรให้น้ำทุกวันเหมือนพันธุ์ไม้อื่น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่องปลูกที่ใช้ด้วย ถ้าเครื่องปลูกมีอินทรีย์วัตถุมาก ก็ให้น้ำ 4-5 วันครั้งก็ได้ ส่วนต้นที่ปลูกใหม่นั้น ควรทิ้งไว้ให้เครื่องปลูกแห้งดีจึงรดน้ำ

การรดน้ำให้แคคตัสปริมาณน้อย ๆ จะไม่เป็นอันตรายเท่ากับการให้น้ำแก่แคคตัสมากเกินไป ดังนั้น ในเมืองไทยมีฝนชุก ควรเก็บแคคตัสเข้าร่ม อย่าให้ถูกฝน จะทำให้เน่าได้  ดังนั้น หลังคาเรือนที่ปลูกแคคตัสควรมี Plastic กันฝน หรือปลูกในโรงกระจกก็ได้

การขยายพันธุ์แคคตัส

การขยายพันธุ์แคคตัส ทำได้หลายวิธีด้วยกัน คือ

1. ใช้วิธีปักชำส่วนต่าง ๆ ของแคคตัส เช่น ใบ กิ่ง ต้น หน่อ นำมาปักชำในกระบะชำทราย บางชนิดวางไว้บนกระบะทรายเท่านั้น จะงอกได้ดีกว่าปักลึกลงไปในดินครั้งแรกรดน้ำในกระบะชำเล็กน้อย การระบายน้ำในกระบะปักชำนี้ต้องมีการระบายน้ำดีด้วย มิฉะนั้น ส่วนที่นำมาปักชำจะเน่าตาย

2. ใช้เมล็ดหว่านเมล็ดลงในกระถางหรือในกระบะที่มีดินร่วนทราย ใช้กระจกแก้วใสปิดปากกระถางเพื่อให้มีความชื้นและอุณหภูมิสูง เมื่อเมล็ดงอก เก็บไว้ในที่ร่มก่อนอย่าให้ถูกแดดโดยตรง อย่ารดน้ำมาก เมื่อต้นโตแยกปลูกในกระถาง

3. การต่อกิ่ง (grafting) แคคตัสบางพันธุ์ ไม่สามารถแตกรากหรือมีความทนทานได้ดีกับดิน และสภาพแวดล้อมที่ขึ้นอยู่ เช่นในดินมีโรครา และมีไส้เดือนฝอย และมีสภาพอื่น ๆ ของดินที่ทำให้แคคตัสอื่นเจริญเติบโตดี ก็ใช้เป็นต้นตอเลี้ยงแคคตัสพันธุ์ที่ไม่สามารถสู้สิ่งแวดล้อมนั้น ๆ ได้ การต่อกิ่งต้องใช้มีดคม ๆ ตัดตามขวางต้นตอ และตัดโคนต้นหรือโคนกิ่งของต้นที่จะนำมาต่อเช่นเดียวกับรอยตัดของต้นตอ แล้ววางบนต้นตอให้แผลรอยตัดทับสนิทก็ใช้ได้ บางครั้งอาจใช้ไม้กลัดเสียบให้ 2 ส่วนติดกัน หรือจะใช้เชือกมัดก็ได้ แต่ต้องระวังรอยเชือกที่ทำให้ช้ำเป็นรอยเสียความสวยงามไป หรืออาจใช้ครอบแก้ว ครอบกันลมพัดโยก และให้กิ่งต่อมีความชื้น ไม่เหี่ยวแห้ง

การดูแลรักษาแคคตัส

การดูแลรักษาต้นแคคตัสที่ต่อกิ่งไว้ คือต้องนำไปเก็บไว้ในที่ร่ม อย่ารดน้ำให้ถูกรอยแผลที่ต่อไว้ อย่าให้ต้นที่ต่อไว้ได้รับความกระทบกระเทือน เมื่อรอยแผลติดกันแล้วซึ่งกินเวลาประมาณ 10 วัน จึงนำไปไว้กลางแจ้ง ในโรงเลี้ยงแคคตัสต่อไป ส่วนเชือกหรือไม้กลัดเอาออกเมื่อต้นติดดีแล้ว การป้องกันแมลง นาน ๆ อาจฉีดยาฆ่าแมลงพวกเพลี้ย หรือแมลงบ้าง หากเห็นดินหรือเครื่องปลูกชื้นมาก อาจมีราขึ้น ก็ฉีดยากันรา ถ้ามีตะไคร่น้ำขึ้น ก็ทำความสะอาดกระถางเอาตะไคร่ออก ถ้าอิฐป่นที่โรยอยู่หน้าเครื่องปลูกมีตะไคร่น้ำขึ้นเต็มจับเป็นแผ่น ควรรื้อเอาอิฐป่นออก แล้วเปลี่ยนอิฐใหม่