วิธีปลูกฟัก (Ash Gourd)

ฟัก

ฟัก เป็นพืชตระกูลเดียวกับแตง บวบ นอกจากใช้ผลทั้งอ่อนและแก่มารับประทานเป็นอาหารแล้ว ยังสามารถใช้ใบอ่อน ยอดอ่อน มาต้มรับประทานได้ด้วย ผลของฟักนำไปประกอบอาหารคาวและหวานได้ มีการปลูกกันมากในประเทศจีนและปลูกกันมามากกว่า 2,000 ปีมาแล้ว ต่อมาก็แพร่หลายมาในประเทศต่างๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยเรามักเรียกว่าฟักเขียว มีลักษณะลำต้นเลื้อย ลำต้นอ่อนจะมีขนสีขาวอยู่ทั่วลำต้น ลำต้นทอดเถายาว 2-3 เมตร มีดอกตัวผู้และดอกตัวเมียแยกกันแต่อยู่ในต้นเดียวกัน ผลของฟักเขียวจะเป็นลักษณะยาว หัวท้ายมน เมื่ออ่อนจะมีสีเขียว และเมื่อแก่จะมีสีเหลืองนวล มีขนสีขาวปกคลุม และมีไขคลุมอยู่ด้วย เมื่อแก่เนื้อของฟักเขียวจะแน่นเป็นสีขาว ภายในมีเมล็ดเหมือนแตง ผลใหญ่จะมีเมล็ดมาก พันธุ์ต่างๆ ของฟักที่ปลูกกันอยู่นั้น สามารถแบ่งออกได้ตามรูปร่างและขนาดของผลดังนี้

  • พันธุ์ที่มีผลกลมยาว ใหญ่ (Cylindrical) ขนาดของผลจะใหญ่ยาว 1-2 ฟุต เส้นผ่าศูนย์กลาง 8-12 นิ้ว มีไขบนผิวมาก มักเก็บรับประทานเมื่อผลแก่เต็มที่ เก็บรักษาไว้ได้นาน
  • พันธุ์ผลกลมใหญ่ ผลมีขนาดอ้วนใหญ่ ผิวมีไขจับมาก มักปลูกตามภาคเหนือ เปลือกแข็งมาก สามารถเก็บไว้ได้นานหลังการเก็บเกี่ยว
  • พันธุ์ผลกลมยาวแต่มีขนาดเล็ก รูปร่างยาวรี ยาวประมาณ 4-8 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง 3-4 นิ้ว ผิวไม่มีไขมาก

การเตรียมปลูกและการปลูกฟัก

ฟักเขียวเป็นผักที่ชอบอุณหภูมิสูงและแห้ง อุณหภูมิที่เหมาะสมในการปลูกคือ 20-25 องศาเซลเซียส ถ้าความชื้นในบรรยากาศสูง จะทำให้ผลผลิตของฟักเขียวต่ำ เพราะการผสมละอองเกสรต้องใช้แมลงเป็นตัวช่วย และจะผสมได้ดีในสภาพความชื้นสัมพัทธ์ในบรรยากาศต่ำ สำหรับดินที่เหมาะสมต่อการปลูกคือดินที่ร่วนและอุดมสมบูรณ์ มีการถ่ายเทของน้ำและอากาศที่ดี และดินต้องสามารถอุ้มน้ำได้พอสมควร

ในการเตรียดินปลูกนั้นควรไถดินให้ลึกประมาณ 20 เซนติเมตร เป็นอย่างน้อย ย่อยและใส่ปุ๋ยคอกเพื่อทำให้สภาพของดินนั้นดีขึ้น โดยทั่วไปจะปลูกโดยหยอดเมล็ดลงในแปลงเลย โดยเอาเมล็ดพันธุ์หยอดหลุมละ 3-5 เมล็ดและให้น้ำในดินชุ่มชื้น เมื่อฟักเขียวงอกได้ 12 วัน จะเริ่มมีใบประมาณ 3-4 ใบ ให้ทำการถอนแยกให้เหลือหลุมละ 2 ต้น หลังจากทำการถอนแยกแล้วให้ทำการปักค้างหลุมละ 2 หลัก

การเก็บเกี่ยวฟัก

ฟักเขียวสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุ 75 วัน ถ้าเป็นพันธุ์ผลใหญ่จะเก็บเกี่ยวได้ช้า คือ อาจต้องใช้เวลานานถึง 120 วัน โดยให้สังเกตดูการสร้างไขที่ผิวของผล ในการเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เองนั้น จะต้องรอให้แก่เต็มที่ก่อน แล้วจึงเก็บเมล็ด แต่โดยปกติแล้วจะไม่ค่อยนิยมกันเพราะพบว่าเกิดการกลายพันธุ์ได้ง่าย